ในยุคที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง ราคาน้ำมัน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนเริ่มมองหาทางออกในการหาเงินด่วนเพื่อใช้จ่ายเฉพาะหน้า หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ “จำนำรถนอกระบบ” เพราะขั้นตอนง่าย รู้ผลเร็ว และไม่ต้องใช้เอกสารซับซ้อน
แต่ในความสะดวกนั้นกลับแฝงด้วย “ความเสี่ยง” ที่หลายคนอาจไม่รู้ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจให้ลึกขึ้นว่า จำนำรถนอกระบบคืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และควรระวังเรื่องไหนบ้างก่อนตัดสินใจ
🔹 จำนำรถนอกระบบ คืออะไร?
“จำนำรถนอกระบบ” หมายถึง การนำรถยนต์ของตนไปใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงินจากบุคคลหรือกลุ่มนายทุนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
โดยทั่วไปแล้ว จะมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก คือ
-
จำนำจอด – ผู้กู้ต้องนำรถไปจอดไว้ที่สถานที่ของผู้ให้กู้ เช่น เต็นท์รถ หรืออู่ซ่อมรถ เพื่อเป็นหลักประกันจนกว่าจะชำระเงินครบ
-
จำนำทะเบียน – ผู้กู้ยังสามารถขับรถได้ตามปกติ แต่ต้องฝากเล่มทะเบียนรถไว้กับผู้ให้กู้
จุดเด่นของการจำนำรถนอกระบบคือ “ได้เงินเร็ว” บางแห่งใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็ได้รับเงินสดทันที ไม่ต้องตรวจเครดิต ไม่ต้องมีคนค้ำ และไม่ต้องมีเอกสารรายได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วนในสถานการณ์ฉุกเฉิน
🔹 ทำไมคนถึงนิยมจำนำรถนอกระบบ?
แม้จะรู้ว่า “นอกระบบ” มีความเสี่ยงสูง แต่หลายคนก็ยังเลือกใช้บริการ เพราะมีเหตุผลดังนี้
-
ได้เงินไว ไม่ต้องรออนุมัติหลายวัน
แตกต่างจากสินเชื่อธนาคารที่ต้องใช้เวลาอนุมัติ 3–7 วัน -
ไม่เช็กเครดิตบูโร
สำหรับคนที่เคยติดประวัติค้างชำระกับสถาบันการเงิน การจำนำรถนอกระบบจึงดูเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า -
ไม่ต้องใช้เอกสารมากมาย
แค่บัตรประชาชน เล่มทะเบียนรถ และตัวรถ ก็สามารถทำเรื่องได้ทันที -
ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
ผู้ให้กู้จะถือรถหรือเล่มทะเบียนเป็นหลักประกันแทน -
มีให้บริการเกือบทุกพื้นที่
ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหนก็สามารถหาผู้รับจำนำได้ง่าย ผ่านเพจ Facebook หรือประกาศออนไลน์
🔹 แต่เบื้องหลังของ “ความง่าย” คือความเสี่ยงมหาศาล
-
ดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด
กฎหมายไทยกำหนดให้ดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี แต่ผู้ให้กู้นอกระบบมักคิดดอกเบี้ยถึง 10% ต่อเดือน (เท่ากับ 120% ต่อปี) ซึ่งผิดกฎหมายแน่นอน -
ไม่มีสัญญาที่เป็นทางการ
หลายรายใช้เพียงกระดาษเขียนมือ ไม่มีรายละเอียดเงื่อนไขชัดเจน เมื่อเกิดปัญหาก็ยากที่จะเรียกร้องสิทธิ์ -
เสี่ยงโดนยึดรถโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
หากชำระดอกเบี้ยช้าหรือขาดติดต่อ ผู้ให้กู้บางรายจะยึดรถหรือขายต่อทันทีโดยไม่แจ้งเจ้าของ ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายแต่เกิดขึ้นบ่อยมาก -
รถอาจถูกนำไปใช้ส่วนตัวหรือถอดอะไหล่
โดยเฉพาะในกรณีจำนำจอด หากสถานที่เก็บรถไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย รถอาจถูกใช้งานหรือสภาพเสียหายได้ -
ผู้กู้บางรายอาจถูกข่มขู่หรือเรียกเก็บเกินจริง
มีหลายกรณีที่เจ้าหนี้ใช้วิธีข่มขู่ กดดัน หรือเรียกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น “ค่าจอดรถ”, “ค่าต่อสัญญา”, “ค่าปรับล่าช้า”
🔹 จำนำรถนอกระบบผิดกฎหมายหรือไม่?
คำตอบคือ “ไม่ผิดทุกกรณี” แต่มีจุดที่ต้องระวัง
-
หากผู้ให้กู้ คิดดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี จะถือว่าผิดตาม พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-
หากผู้ให้กู้ ประกอบธุรกิจปล่อยเงินกู้โดยไม่มีใบอนุญาต ก็จะผิดตาม พระราชบัญญัติธุรกิจให้สินเชื่อ พ.ศ. 2565 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท
-
ส่วนผู้กู้หรือเจ้าของรถ ไม่ถือว่ามีความผิด เว้นแต่รถยังผ่อนไฟแนนซ์อยู่ แล้วนำไปจำนำโดยไม่แจ้งบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งอาจเข้าข่าย “ยักยอกทรัพย์”
🔹 หากถูกโกงหรือรถถูกยึด ต้องทำอย่างไร?
-
แจ้งความทันที
หากผู้ให้กู้ยึดรถไปโดยไม่แจ้ง หรือขายต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งความข้อหา ยักยอกทรัพย์ หรือ ฉ้อโกง ได้ -
เก็บหลักฐานให้ครบถ้วน
เช่น สัญญา ใบรับเงิน สลิปโอน รูปถ่ายรถ แชทการพูดคุย เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดี -
ร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐ
-
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
-
ธนาคารแห่งประเทศไทย (กรณีปล่อยกู้ผิดกฎหมาย)
-
ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด
-
🔹 ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
ถ้าต้องการเงินด่วนโดยไม่อยากเสี่ยงกับนอกระบบ ปัจจุบันมีทางเลือกที่ถูกกฎหมาย เช่น
-
สินเชื่อจำนำทะเบียนรถในระบบ จากบริษัทที่ได้รับอนุญาต เช่น เงินติดล้อ, ศรีสวัสดิ์, สมหวัง, กรุงศรีออโต้
-
รีไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อเพิ่มวงเงินแต่ยังขับรถได้
-
สินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคาร ที่มีการกำกับชัดเจนและอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า
แม้ขั้นตอนอาจใช้เวลามากกว่า แต่มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ถูกกฎหมาย และไม่มีความเสี่ยงเรื่องยึดรถโดยมิชอบ
🔹 สรุป
“จำนำรถนอกระบบ” อาจช่วยให้ได้เงินด่วนจริงในยามจำเป็น แต่เต็มไปด้วยความเสี่ยง ทั้งเรื่องดอกเบี้ยโหด การยึดรถโดยไม่แจ้ง หรือปัญหาทางกฎหมายในอนาคต
หากเลี่ยงได้ ควรเลือกใช้บริการในระบบที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐ เพราะการตัดสินใจอย่างรอบคอบเพียงครั้งเดียว อาจช่วยให้คุณไม่ต้องสูญเสียทรัพย์สินและความสงบสุขไปตลอดชีวิต
